top of page

2 วัน 1 คืน ไปสนุกกัน ที่กาญจนบุรี

อัปเดตเมื่อ 9 ม.ค. 2563



หลายๆคนที่อยากท่องเที่ยว แต่ไม่ค่อยมีเวลา วันนี้เรามาท่องเที่ยวใกล้เมืองกรุงกันดีกว่า ที่ "กาญจนบุรี" ถือเป็นเมืองท่องเที่ยวใกล้กรุง การเดินทางสะดวกสบาย มีทั้งขนส่งสาธารณะ หรือใครที่มีรถ ก็สามารถขับรถมาเองได้ง่ายๆ เพียงไม่ถึง 2 ชั่วโมงเท่านั้น


เริ่มต้นออกเดินทาง เก็บกระเป๋า สามารถเข้าตัวเมืองกาญจน์ ได้ทาง บางเลน (ไม่แนะนำตอนกลางคืน เพราะค่อนข้างมืดค่ะ) หรือ ถนนบรม (วิ่งผ่านนครปฐม เข้าสู่เมืองกาญจน์) ทริปแรกที่เราจะแวะกันก็คือ


วัดถ้ำเสือ (อ.ท่าม่วง)

อยู่ห่างจากเขื่อนแม่กลอง ประมาณ 5 กิโลเมตร ทางเข้าวัดต้องผ่านตัวเขื่อนแม่กลอง แล้วจะมีป้ายบอกเลี้ยวขวาไปประมาณ 2 กิโลเมตร

วัดนี้มีพระพุทธรูปปางประทานพรขนาดใหญ่อยู่บนยอดเขามีพุทธลักษณะที่สวยงามมาก และยังมีอุโบสถอัฏมุขเป็นลักษณะทรงไทยมีลวดลายสวยงามวิจิตรตระการตา ข้างๆ มีเจดีย์เกษแก้วมหาปราสาท ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเดินหรือใช้ลิฟท์ขึ้นไปชมวิวทะเลสาบและเขื่อนแม่กลอง นอกจากนี้ ถ้ามองจากด้านบนของวัด จะเห็นวิวทิวทัศน์อันสวยงามมากๆเลยค่ะ



หลังจากอิ่มบุญกันแล้ว เราก็มาเยี่ยมชมสวนสัตว์ ซาฟารีปาร์ค กันค่ะ เดินทางผ่านตัวเมืองกาญจนบุรี มุ่งหน้าไปทาง อำเภอบ่อพลอย ประมาณ 50 นาที เราจะเห็นสวนสัตว์ ซาฟารีปาร์ค อยู่ทางด้าน ซ้ายมือของเรานะคะ


ซาฟารีปาร์ค

ซาฟารีปาร์ค ถือได้ว่า เป็นสวนสัตว์เปิด แห่งแรกของจังหวัดกาญจบุรี เราสามารถที่จะเข้าชม ถ่ายภาพ และให้อาหารสัตว์ได้อย่างใกล้ชิด รวมถึง ยังมีการแสดงโชว์ต่างๆ จากสัตว์น้อยใหญ่ ที่ยกขบวนมาให้ได้ชมกันตลอดทั้งวันเลยทีเดียว



ราคาค่าเข้าชม ชาวไทย – ผู้ใหญ่ 200 บาท – เด็ก 100 บาท (ความสูงไม่เกิน 120 ซ.ม.) หมายเหตุ : เด็กอายุไม่เกิน 3 ขวบไม่เสียค่าบัตรผ่านประตู

ชาวต่างชาติ – ผู้ใหญ่ 550 บาท – เด็ก 350 บาท

เปิดบริการ : 9.00 น. – 17.00 น. ทุกวัน Website : www.safaripark-kan.com

โทรศัพท์ : (034) 678225, มือถือ 086-3000667

ขอบคุณภาพจาก : http://kanchanaburi.center/


มาต่อกันที่ จุดหมายถัดไปค่ะ

ต้นจามจุรียักษ์

ต้นจามจุรียักษ์

ต้นจามจุรียักษ์ ต้นนี้ใหญ่โต ขนาดเท่ากับ 10 คนโอบ และมีอายุมากกว่า 100 ปี ความใหญ่โตของเจ้าต้นจามจุรียักษ์นี้ กลายเป็นจุดดึงดูดให้นักท่องเที่ยว แวะเวียนเข้ามาถ่ายรูปกันมากมาย เรียกได้ว่า เป็นสัญลักษณ์ ของเมืองกาญจน์เลยก็ว่าได้


ต้นจามจุรียักษ์นี้ เปิดให้เข้าชม : ทุกวัน 6.00 – 18.00 น. ไม่มีค่าบริการ

สามารถติดต่อได้ที่ : +66 3451 1200 , +66 3462 3691


ได้เวลาพักผ่อนกันแล้ว จากต้นจามจุรีย์ยักษ์ ให้ออกมาแล้วเลี้ยวขวา จากนั้นตรงมาเรื่อยๆ โดยใช้เส้นทางมุ่งเข้าสู่ตัวเมือง ปลากาญจน์ รีสอร์ท จะอยู่ทางขวามือ ก่อนถึงสะพานข้ามแม่น้ำแม่กลองค่ะ


ปลากาญจน์ รีสอร์ท

ปลากาญจน์ รีสอร์ท เป็นที่พักในกาญจบุรี ริมแม่น้ำแม่กลอง ภายในตกแต่งอย่างเรียบง่าย เน้นความสงบ สบาย ส่วนตัวค่ะ มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ให้คุณได้เพลิดเพลินตลอดการพักผ่อนในทริปนี้


ภาพจากสะพาน เมื่อขับรถมาใกล้ๆจะถึงทางเข้า

ด้านหน้าทางเข้ารีสอร์ท



ห้องพักซูพีเรีย

หลังจากชื่นชมบรรยากาศ และเก็บของกันเรียบร้อยแล้ว ก็มารับประทานอาหารกันค่ะ ที่ห้องอาหารปลากาญจน์ รีสอร์ท


ห้องอาหารปลากาญจน์ รีสอร์ท

เรามีบริการอาหารมากมาย รับรองว่า ได้รสชาติของคนเมืองกาญจน์แน่นอน เมนูแนะนำที่อยากให้ลองก็คือ ปลาเนื้ออ่อนค่ะ ซึ่งถือว่าเป็นเมนูขึ้นชื่อของเมืองกาญจน์เลยทีเดียว หรือใครชอบเมนูจัดจ้าน ก็ต้องแกงป่าไก่บ้านค่ะ ถึงพริกถึงเครื่องแกงแน่นอน




เช้าวันใหม่เริ่มต้นด้วยเมนูอาหารเช้า ที่ห้องอาหารปลากาญจน์ เมนูอาหารเช้าของเรา จะเป็นแบบ A la carte นะคะ แต่สามารถสั่งได้ไม่อั้นเลย มีทั้งข้าวต้ม ข้าวผัด หรือ American breakfast ก็ได้ รวมถึงผลไม้ และเครื่องดื่ม ชา กาแฟ ให้เลือกทานได้ไม่อั้นค่ะ



รับประทานเสร็จแล้ว เริ่มมีแรง ก็ลุยกันต่อค่ะ จากที่พัก เดินทางไปเส้น ไทรโยค-ทองผาภูมิ ประมาณ 50 นาที เข้าไปทางมหาวิทยาลัย มหิดลฯ


ถ้ำกระแซ

ถ้ำนี้เป็นถ้ำที่เคยเป็นที่พักของเชลยศึกเมื่อครั้งสร้างเส้นทางรถไฟสายมรณะจากไทยไปพม่า ตัวถ้ำติดกับเส้นทางรถไฟสายกาญจนบุรี–น้ำตก วึ่งเป็นทางรถไฟสายประวัติศาสตร์สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2


ขอบคุณภาพจาก http://kanchanaburi.center


สถานีรถไฟถ้ำกระแซ เป็นสถานีรถไฟที่ได้รับความนิยมของการชมเส้นทางรถไฟสายมรณะ นักท่องเที่ยวจะมารอเวลารถไฟที่แล่นผ่านมาในวันเสาร์-อาทิตย์ เป็นรถไฟเที่ยวพิเศษสำหรับนักท่องเที่ยว ถ้ำกระแซอยู่ห่างจากสถานีนี้เพียงเล็กน้อย


ถ้ำกระแซ ปากถ้ำกว้างใหญ่มองเข้าไปเห็นพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ 1 องค์ สามารถเข้าไปจุดธูปเทียนบูชาพระภายในถ้ำได้ ถ้ำกระแซอยู่ติดกับทางรถไฟสายมรณะซึ่งมีลักษณะเป็นผาหินขนาดใหญ่บริเวณนี้



ติดต่อสอบถาม  : ประชาสัมพันธ์จังหวัดกาญจนบุรี โทร. 0 3451 2410, 0 3451 4756

ขอบคุณข้อมูลและที่มาภาพจาก www.toyotakan.com


จุดท่องเที่ยวจุดสุดท้าย ก่อนเดินทางกลับ เราจะพาคุณไปย้อนยุค แต่งชุดโบราณ ชื่นชมสถานที่ และวัฒนธรรมไทยโบราณร่วมกัน ที่เมืองมัลลิกาค่ะ เดินทางย้อนกลับมาทางเดิม ประมาณ 20 นาที ก็จะเห็นเมืองมัลลิกา อยู่ทางด้านขวามือของเราค่ะ


เมืองมัลลิกา ร.ศ. 124

ที่นี่เราสามารถแต่งชุดไทยหรือ ใครอยากจะใส่ชุดธรรมดาก็ได้ แล้วแต่สะดวกนะคะ ภายใน จะมีทั้งบ้านเรือนไทย กิจกรรมไทยๆ รวมถึงอาหารไทยโบราณต่างๆ และการใช้เงิน เราต้องแลกเงินเป็นอัดค่ะ ก็แปลกไปอีกแบบ

วันและเวลา เปิดให้บริการ : เปิดบริการทุกวันเจ้าค่ะ 9.00 – 21.00 น.

ค่าบริการ : โปรโมชั่นพิเศษ ช่วงเปิดเมือง (29 ต.ค. – 13 พ.ย.) 

ราคาเข้าชมสำหรับผู้ใหญ่ 1 วัน ราคา 150 บาทราคาเข้าชมสำหรับเด็ก

* 1 วัน ราคา 75 บาทราคาเข้าชมรวมอาหารเย็นและโชว์สำหรับผู้ใหญ่

** 550 บาทราคาเข้าชมรวมอาหารเย็นและโชว์สำหรับเด็ก 350 บาท *เด็กสูง ต่ำกว่า 80 ซม. เข้าฟรี / สูงระหว่าง 80-120 ซม.- ราคาเด็ก / สูงเกิน 120 ซม. – ราคาผู้ใหญ่ **รวมของที่ระลึกจากเมืองมัลลิกา


ราคาเช่าชุดไทย : 200 บาทสำหรับผู้ใหญ่ และ 100 บาทสำหรับเด็กเจ้าค่ะ (*มีล็อกเกอร์ไว้ให้เก็บของส่วนตัวก่อนเข้าเยี่ยมชมในเมือง *ราคาเช่าชุดสำหรับผู้ใหญ่ ช่วงเย็นระหว่าง 16.30 – 21.00 น. ลดเหลือ 150 บาท)

ขอบคุณภาพจาก : www.facebook.com/MallikaR.E.124


ก่อนกลับ ก็อย่าลืมซื้อของฝากติดไม้ติดมือกันนะคะ การเดินทางกลับสามารถออกทาง เส้นหลักมุ่งเข้าสู่นครปฐม หรือ จะกลับทางบางเลนก็ได้ค่ะ โดยจุดหมายทั้งสอง จะมีโรงงานวุ้นเส้นท่าเรือตั้งอยู่ ทั้งสองเส้นทาง ของฝากที่แนะนำก็คือ วุ้นเส้นท่าเรือค่ะ ที่นี่เขาขึ้นชื่อเรื่องคุณภาพและความเหนียวนุ่ม รวมถึงสลิ่มรสหวาน ที่ใครมา ก็ต้องแวะซื้อกลับไปทานทุกครั้ง แอดมินเองก็แนะนำค่ะ เพราะอร่อยมากๆ และยังหอมกลิ่นใบเตย อีกด้วยค่ะ



จบทริป 1 คืน 2 วัน ที่กาญจนบุรี กันเรียบร้อย ขอให้ทุกท่านเดินทางกลับด้วยความปลอดภัย นอกจากนี้แล้ว เรายังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมาย รอบหน้าแอดมินจะเข้ามาแนะนำกันใหม่นะคะ


ปล. ของแถม ดูสถานที่เที่ยว ได้จากแผนที่นี้เลยน้า ยังมีอีกหลายที่เลยค่ะ







ดู 2,203 ครั้ง
bottom of page